สำหรับลักษณะรูปแบบการชาร์จรถยนต์ EV จะแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะด้วยกันนะครับ ซึ่งเราควรเลือกตามความเหมาะสมจากสามปัจจัยหลักด้วยกัน ปัจจัยแรกคือ On bord chargers ของรถยนต์ EV ที่ท่านใช้งาน ปัจจัยที่สองคือ ระบบไฟฟ้าของบ้านท่านเป็นระบบใด (หนึ่งเฟสหรือสามเฟส),มิเตอร์ไฟฟ้าขนาดกี่แอมป์ ปัจจัยข้อที่สามคือขนาดของแบตเตอรี่และระยะเวลาในการชาร์จไฟ ในการเลือกซื้อ EV charger ที่เหมาะสมเราไม่อาจมองข้ามปัจจัยเหล่านี้ได้เลย

ก่อนจะรู้วิธีการเลือก EV Charger ที่เหาะสม ผู้เขียนจะต้องอธิบายวิธีการทำงานของระบบชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในเบื้องต้นก่อน ในรถยนต์ EV แต่ละรุ่นจะมีขนาดแบตเตอรี่ และ ขนาด On Bord Chargers ที่แตกต่างกัน เมือเสียบปลั๊กชาร์จรถยนต์ EV ตัว On bord charger จะทำการเชื่อมต่อกันกับ EV Chargers ซึ่งตัว On bord charger นี้จะเป็นตัวกำหนดค่ากำลังไฟสูงสุดที่จะชาร์จไฟฟ้าลงแบตเตอรี่ได้ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเครื่อง EV charger มีกำลังชาร์จอยู่ที่ 22 Kwh แต่ On bord charger รับกำลังไฟได้เพียงแค่ 11 Kwh ตัว On bord charger นี้ก็จะไปสั่งให้เครื่องชาร์จ ส่งกำลังไฟมาได้เพียงแค่ 11 Kwh เท่านั้น ดังนั้น เราจึงไม่ควรเลือกซื้อ EV charger ที่มีขนาดมากกว่า On bord charger ของรถยนต์ไฟฟ้าที่เราใช้งาน

สำหรับปัจจัยต่อมาที่เราไม่ควรมองข้ามก็คือระบบไฟฟ้าภายในบ้านและขนาดมิเตอร์ โดยระบบไฟหนึ่งเฟส จะสามารถใช้ได้กับเครื่อง EV charger ขนาดต่ำกว่า 11 kwh ลงมา ถ้าต้องการกำลังชาร์จมากกว่านี้ควรขยายขนาดมิเตอร์และเปลี่ยนระบบไฟเป็นไฟสามเฟส เพื่อหลีกเลียงปัญหาไฟตกไฟดับเมื่อมีการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

ส่วนเรื่องขนาดแบตเตอรี่และระยะเวลาในการชาร์จไฟก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญในการเลือก EV charger เช่นกัน ยกตัวอย่าง ถ้า ขนาดแบตเตอรี่รถยนต์ EV มีขนาด 80 Kw ผู้ใช้งานต้องขับรถตลอดช่วงเวลา 6.00 – 20.00 น. แบตเตอรี่เหลือจากการใช้งาน 10 kw ผู้ใช้งานจะต้องชาร์จไฟเพิ่ม 70 kw แบตเตอรี่จึงจะเต็มและเพียงพอต่อการใช้งานในวันถัดไป ในกรณีนี้ผู้ใช้งานมีเวลาชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์เพียงแค่ 9 ชั่วโมง นั่นหมายความว่า ถ้าผู้ใช้งาน เลือกใช้ EV Charger ขนาด 3.6 kw ผู้ใช้งานจะต้องใช้เวลาในการชาร์จกว่า 20 ชั่วโมง แต่ถ้าผู้ใช้ เลือกใช้ EV Charger ขนาด 22 kwh ซึ่งใช้เวลาในการชาร์จเพียง 3 ชั่วโมงนิดๆ ก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 70 kw ให้เต็มได้แล้ว ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆซึ่งได้กล่าวมาแล้วข้างต้นด้วย

สำหรับวิธีการเลือกช่างติดตั้งที่ดีควรมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ จะต้องเป็นผู้ที่ความรู้เกี่ยวกับระบบไฟฟ้าทั้งระบบกระแสตรงและกระแสสลับเป็นอย่างดี สามารถเลือกใช้อุปกรณ์ป้องกันได้อย่างเหมาะสมเช่น รู้จักคุณสมบัติของเบรคเกอร์แต่ละรูปแบบ RCBO,RCCB แตกต่างจากเบรคเกอร์ MCB ยังไง แอมป์ทิป แอมป์เฟรม เท่าไหร่ ควรใช้ขนาดกี่แอมป์ สายไฟควรใช้สายทองแดงขนาดกี่ mm เป็นสาย THW หรือสาย CV-NM ดี คุณสมบัติที่สองคือ ต้องเข้าใจระบบเฟสไฟฟ้า ขนาดมิเตอร์ สามารถแก้ไขปัญหาและติดต่อกับการไฟฟ้าเพื่อขออนุญาตขยายขนาดและเปลี่ยนระบบเฟสไฟได้ ส่วนคุณสมบัติข้อที่สามคือ จะต้องเข้าใจระบบการคิดค่าไฟของมิเตอร์แต่ละประเภทและมีความเข้าใจลักษณะการใช้งานไฟฟ้าของลูกค้าเป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่น ถ้าลูกค้าเป็นคนทำงานตื่นเช้ากลับมาชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้านช่วง 21.00 น. ตอนกลางวันที่บ้านแทบไม่ได้ใช้ไฟ ผู้ติดตั้งควรแนะนำให้ลูกค้าเปลี่ยนไปใช้มิเตอร์ TOU เพราะค่าไฟช่วง 22.00-9.00 น. และ วันหยุด เสาร์-อาทิตย์ จ่ายแค่เพียงหน่วยละ 2 บาทนิดๆ แต่ค่าไฟช่วงกลางวันจะหน่วยละ 5-6 บาท ซึ่งปกติลูกค้าไม่มีการใช้ไฟช่วงกลางวันอยู่แล้วการแนะนำให้ลูกค้าเปลี่ยนมาใช้มิเตอร์ TOU จึงน่าจะช่วยลดค่าไฟให้ลูกค้าได้อีกด้วย ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติโดยพื้นฐานที่ผู้ติดตั้ง EV Charger ควรจะมีเพราะไม่ใช่แค่เพียงติดตั้ง EV Charger ได้เท่านั้น เรายังต้องคำนึงถึงความปลอดภัย ความประหยัดและช่วยลูกค้าลดค่าใช้จ่ายต่างๆได้