Art Gallery — Overview
พลังงานจากแสงอาทิตย์ ขับเคลื่อนความยั่งยืนสู่อนาคต

คำกล่าวที่ว่า “พลังงานสะอาดเพื่อความยั่งยื่น” นับเป็นวลีที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนอนาคต ในสภาวะที่โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตการโลกร้อนและพลังงานจากถ่านหิน พลังงานทางเลือก โดยเฉพาะพลังงานจากแสงพระอาทิตย์ (Solar cell ) เหมือนเป็นแสงสว่างที่สามารถแก้ไขปัญหา วิกฤตการโลกร้อน วิกฤตการราคาพลังงาน และ วิกฤตการคนว่างงานสูง ได้เป็นอย่างดี
โดยในบทความนี้เราจะเน้นไปที่การแบ่งแยกรูปแบบพลังงานจากแสงพระอาทิตย์ และ รูปแบบการทำงาน และการผลิตไฟ
สำหรับพลังงานแสงอาทิตย์ จะสามารถแยกประเภทได้เป็น 2 ประเภท
1.พลังงาน ความร้อน จากแสงอาทิตย์ (Solar thermal Energy)
2.พลังงานจากลำแสงพระอาทิตย์ (Solar Energy)

พลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์ (Solar thermal Energy)
พลังงานความร้อนจากแสงพระอาทิตย์ โดยหลักการแล้วจะนำความร้อนที่ได้ไปเปลี่ยนสถานะของน้ำให้เป็นก๊าซ แล้วใช้ความดัดของก๊าซไปขับเคลื่อน Turbines เพื่อใช้ผลิตไฟฟ้า ตามรูปภาพประกอบด้านบนจะเห็นได้ว่าในระบบนี้จะมีอุปกรณ์หลักๆทั้งหมด 4 ชิ้น โดยจะมี Mirrors ซึ่งเป็นตัวดูดซับพลังงานความร้อนจากแสงพระอาทิตย์ แล้วส่งต่อพลังงานความร้อนไปรวมที่ Heat exchanger ใน Heat exchanger จะมีถังเก็บน้ำอยู่แล้วมีท่อสองด้านที่เชื่อมต่อกับถังนี้ ด้านหนึ่งจะอยู่สูงเกินกว่าระดับน้ำส่วนอีกด้านจะอยู่ต่ำกว่า พอน้ำได้รับความร้อนเกิดเป็นไอน้ำ เมื่อไอน้ำสะสมมากเข้าจึงเริ่มเกิดเป็นมีแรงดัน เมื่อมีแรงดันเกิดขึ้น เราสามารถใช้แรงดันนี้ในการขับเคลื่อน Turbines เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าได้ หลังจากไอน้ำขับเคลื่อน Turbines เกิดเป็นกระแสไฟฟ้าแล้ว ไอน้ำเมื่อได้รับความเย็นมากพอจึงแปลงสถานะกลับมาเป็นของเหลว วนเวียนอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ เมื่อได้รับความร้อนจากพระอาทิตย์ระบบนี้ก็จะสามารถผลิตพลังงานได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด


พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar cell)
พลังงานแสงอาทิตย์เป็นกระบวนการเกิดกระแสไฟฟ้าในระดับอะตอม (Photovoltaic) กล่าวคือในแสงอาทิตย์จะมีรังสี โฟตรอน ซึ่งเมื่อรังสีโฟตรอน ตกกระบทกับธาตุ Silicon ทำให้เกิดปฏิกิริยา Photovoltaic เกิดการปลดปล่อยอิเล็กตรอนออกมา กลายเป็นกระแสไฟฟ้า และ เมื่อมีกระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้นก็เกิดแรงดันไฟฟ้าขึ้น เมื่อมีแรงดันไฟฟ้า ทำให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านไปตามตัวนำไฟฟ้า เมื่อไหลผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้าทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงาน

ตามธรรมชาติแล้ว Silicon มีเลขเวเลนซ์อิเล็กตรอนเท่ากับ 4 ทำให้มีคุณสมบัตรเป็นกลางทางไฟฟ้า ทำให้การไหลของกระแสไฟฟ้าไม่ดีเท่าที่ควร ต่อมานักวิทยาศาสตร์ในยุคหลังได้มีการ Dopping เพิ่มเติมเข้าไป ทำให้เซลล์แสงอาทิตย์ มีสองรูปแบบตามคุณสมบัตรและธาตุที่ได้มีการ Dopping สารเข้าไป โดยมีรายละเอียดดังนี้

ประเภทเซลล์แสงอาทิตย์

Cell P-type สำหรับเซลล์ P-type นั้น เป็นธาตุ Silicon ที่มีการ Dopping สารโบรอน เพิ่มเข้าไป ทำให้ Cell P-type นี้มีคุณสมบัตรในการปลดปล่อยอิเล็กตรอนได้ง่ายขึ้น และมีคุณสมบัตรเป็นตัวนำไฟฟ้า ทำให้กระแสไฟฟ้าไหลได้สะดวกยิ่งขึ้น

Cell N-type สำหรับเซลล์ N-type นี้ ได้มีการ Dopping สาร ฟอสฟอรัส เพิ่มเข้าไป ทำให้ Cell N-type มีช่องว่างหรือหลุมบริเวณเวเลนซ์อิเล็กตรอน
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เมื่อมีแสงมาตกกระทบเซลล์แสงอาทิตย์ทั้งสองแบบจึงทำให้กระแสไฟฟ้าไหลจาก P-type ผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้าไปยัง N-type ทำให้เกิดวงจรการเกิดกระแสไฟฟ้าแบบไม่สิ้นสุดตราบใดที่มีแสงแดดมาตกกระทบ
สรุป
พลังงานจากพระอาทิตย์ ถือเป็นพลังงานอีกรูปแบบหนึ่งที่กำลังขับเคลื่อนโลกของเราในปัจจุบันให้พ้นจากสภาวะโลกร้อน ทั้งยังเป็นพลังงานที่มีอยู่อย่างไม่จำกัด และเพียงพอต่อการดำรงชีวิตพื้นฐานของมนุษย์ แสงแดดที่ส่องมายังโลกในหนึ่งปีเทียบเท่ากับพลังงานที่ทั้งโลกใช้ถึงสามปี ไม่เพียงเท่านั้น พลังงานจากพระอาทิตย์ยังสามารถสร้างงานสร้างอาชีพให้ผู้คนในสังคมอย่างมากมาย พระอาทิตย์ส่องแสงสว่างถึงผู้คนบนโลกในพื้นที่เดียวกันอย่างเท่าเทียม จะยังขาดก็แค่ความพร้อมที่จะทำให้ผู้คนทุกคนสามารถใช้พลังงานจากพระอาทิตย์นี้ได้

แนะนำธุรกิจผ่านผลงานและประสบการณ์
ความเป็นเลิศ คือการหลอมรวม ประสบการณ์ และ จินตนาการ SOLA-DIUM คือตัวเร่ง ในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการใช้พลังงาน และ สถาปัตยกรรมรอบๆตัวเรา

Sola-Dium is not confined to the past—we are passionate about the cutting edge designs shaping our world today.